เนื่องจากน้องสาวของเราวางแผนที่จะไปเที่ยวอังกฤษกับแฟน แฟนของน้องเป็นลูกครึ่งอังกฤษถือสองพาสปอร์ตของทั้งไทยและอังกฤษ ดังนั้นตัวแฟนของน้องจึงไม่มีปัญหาแต่น้องของเราจำเป็นต้องขอวีซ่าท่องเที่ยว ทั้งสองคนนี้เพิ่งจะเรียนจบมหาลัย ยังไม่มีงานประจำทำ น้องของเราจึงต้องให้แม่เป็นสปอนเซอร์ ทีนี้พวกเขาคิดกันไว้ว่าจะอยู่ที่อังกฤษเป็นเวลาสามเดือนโดยอาศัยอยู่กับบ้านญาติที่โน้น
ทีนี้พอมาถึงกระบวนการทำวีซ่า เรากับเพื่อนที่จะช่วยเตรียมเอกสารให้น้องมองว่า ยากมากที่จะได้วีซ่า ถึงผ่านก็คงติดที่ตม. อยู่ดี เนื่องจากน้องสาวของเราพาสปอร์ตขาวโล่ง ไม่เคยไปเที่ยวที่ไหน เป็นสาวโสด เพิ่งเรียนจบ ยังไม่มีงานทำ และภาษาอังกฤษก็พูดได้ไม่ดีนัก และจดหมายเชิญที่ทางโน้นส่งมาก็ดันเขียนตรงเป็นไม้บรรทัดทั้งที่ขอแล้วว่าให้เขียนมาแค่ 10 วันพอที่เราจะไปเที่ยวและพักกับเขา แต่เขาดันบอกว่าไม่อยากโกหก(ไม่มีใครอยากโกหกหรอก แต่ถ้าขอสามเดือนและบอกว่ามากับboyfriend. ตามในจดหมายเชิญบอกเป็นตงฉินแบบนั้น ไม่ผ่านแน่นอน 100%)เมื่อไปถึงตม.น้องสาวก็ต้องแยกกันเข้าคนละช่องกับแฟนแน่นอน เพราะแฟนน้องมีพาสปอร์ตอังกฤษ และการจะไปตอบว่ามาเที่ยวกับแฟนซึ่งเป็นคนในประเทศเอาแฟนมาช่วยพูดก็คงดูไม่ดีอีก ตม.มองเจตนามโนได้ว่าจะหนีมาแต่งงาน หรือมาโดด
ดังนั้นเราจึงอยากขอเสียงยืนยันจากทุกท่านว่าการที่เราโน้มน้าวน้องสาวของเราและแฟนของน้องให้ยอมรับคำแนะนำของเราที่บอกให้ทำงานไปก่อนสักหนึ่งปี เป็นสิ่งที่สร้างหลักประกันความมั่นคงและความผูกพันธ์ในประเทศเราไปก่อนนั้นเป็นสิ่งที่ลดความเสี่ยงได้อย่างแท้จริง เพราะเรามองว่าถ้าได้ไปแล้วเขาไม่ให้เข้าประเทศจะเสียเงิน และความรู้สึกมากกว่านี้ทั้ง เงินและเวลา เหนื่อยนั่งเครื่องแบบไม่ได้อะไร ตัวน้องเรายอมรับค่ะว่ายาก แต่ทางแฟนน้องอะดื้อแพ่งอยู่ ว่าทำไมจะไม่ได้ ยืนยันจะให้น้องเราไปขอให้ได้ ทั้งที่จะไปเที่ยวก็ตังค์ใครตังค์มัน
ปล.เราจะเอาหน้ากระทู้นี้ให้แฟนของน้องและครอบครัวเขาอ่านเพราะ เพราะครอบครัวนี้มีพาสปอร์ตสัญชาติอ้งกฤษกันทั้งบ้าน เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมและทำไม มองกันง่ายๆว่าทำอะไรถูกต้องแล้วทำไมจะไม่ผ่าน ถ้าเข้าประเทศไม่ได้จะให้พี่สาวที่อยู่อังกฤษ(สัญชาติอังกฤษ)ช่วยพูด ซึ่งมันก็ไม่มีประโยชน์อยู่แล้ว
ไม่งั้นคนไทยที่จะไปหาเพื่อนอังกฤษช่วยพูดให้แล้วได้เข้าประเทศคงไม่ลำบากมาตั้งกระทู้ถามกันบ่อยๆ
เอกสารของน้องเรามี 1.transcript ที่เรียนจบ 2. จดหมายเชิญ(unformal form) 3. Statement book bank ของแม่มีเจ็ดแสนนิดๆ พร้อมจดหมายรับรองสปอนเซอร์ 4. บุ๊คกิ้งที่จองโรงแรมในลอนดอน(กะเที่ยวลอนดอนก่อนไปอยู่กับญาติในน็อตติ้งแฮม) 5. ตั๋วเครื่องไป กลับ 6.เอกสารส่วนตัวต่างๆพวก ทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน 7. เอกสารเกี่ยวกับแม่เรื่องงานที่ทำ 8. เตรียมรูปถ่ายและก็พร้อมก็กรอกข้อมูลออนไลน์ค่ะ
ขอเสียงยืนยัน(เยอะๆ)จากผู้มีประสบการณ์ความรู้ในการขอวีซ่าอังกฤษ
ทีนี้พอมาถึงกระบวนการทำวีซ่า เรากับเพื่อนที่จะช่วยเตรียมเอกสารให้น้องมองว่า ยากมากที่จะได้วีซ่า ถึงผ่านก็คงติดที่ตม. อยู่ดี เนื่องจากน้องสาวของเราพาสปอร์ตขาวโล่ง ไม่เคยไปเที่ยวที่ไหน เป็นสาวโสด เพิ่งเรียนจบ ยังไม่มีงานทำ และภาษาอังกฤษก็พูดได้ไม่ดีนัก และจดหมายเชิญที่ทางโน้นส่งมาก็ดันเขียนตรงเป็นไม้บรรทัดทั้งที่ขอแล้วว่าให้เขียนมาแค่ 10 วันพอที่เราจะไปเที่ยวและพักกับเขา แต่เขาดันบอกว่าไม่อยากโกหก(ไม่มีใครอยากโกหกหรอก แต่ถ้าขอสามเดือนและบอกว่ามากับboyfriend. ตามในจดหมายเชิญบอกเป็นตงฉินแบบนั้น ไม่ผ่านแน่นอน 100%)เมื่อไปถึงตม.น้องสาวก็ต้องแยกกันเข้าคนละช่องกับแฟนแน่นอน เพราะแฟนน้องมีพาสปอร์ตอังกฤษ และการจะไปตอบว่ามาเที่ยวกับแฟนซึ่งเป็นคนในประเทศเอาแฟนมาช่วยพูดก็คงดูไม่ดีอีก ตม.มองเจตนามโนได้ว่าจะหนีมาแต่งงาน หรือมาโดด
ดังนั้นเราจึงอยากขอเสียงยืนยันจากทุกท่านว่าการที่เราโน้มน้าวน้องสาวของเราและแฟนของน้องให้ยอมรับคำแนะนำของเราที่บอกให้ทำงานไปก่อนสักหนึ่งปี เป็นสิ่งที่สร้างหลักประกันความมั่นคงและความผูกพันธ์ในประเทศเราไปก่อนนั้นเป็นสิ่งที่ลดความเสี่ยงได้อย่างแท้จริง เพราะเรามองว่าถ้าได้ไปแล้วเขาไม่ให้เข้าประเทศจะเสียเงิน และความรู้สึกมากกว่านี้ทั้ง เงินและเวลา เหนื่อยนั่งเครื่องแบบไม่ได้อะไร ตัวน้องเรายอมรับค่ะว่ายาก แต่ทางแฟนน้องอะดื้อแพ่งอยู่ ว่าทำไมจะไม่ได้ ยืนยันจะให้น้องเราไปขอให้ได้ ทั้งที่จะไปเที่ยวก็ตังค์ใครตังค์มัน
ปล.เราจะเอาหน้ากระทู้นี้ให้แฟนของน้องและครอบครัวเขาอ่านเพราะ เพราะครอบครัวนี้มีพาสปอร์ตสัญชาติอ้งกฤษกันทั้งบ้าน เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมและทำไม มองกันง่ายๆว่าทำอะไรถูกต้องแล้วทำไมจะไม่ผ่าน ถ้าเข้าประเทศไม่ได้จะให้พี่สาวที่อยู่อังกฤษ(สัญชาติอังกฤษ)ช่วยพูด ซึ่งมันก็ไม่มีประโยชน์อยู่แล้ว
ไม่งั้นคนไทยที่จะไปหาเพื่อนอังกฤษช่วยพูดให้แล้วได้เข้าประเทศคงไม่ลำบากมาตั้งกระทู้ถามกันบ่อยๆ
เอกสารของน้องเรามี 1.transcript ที่เรียนจบ 2. จดหมายเชิญ(unformal form) 3. Statement book bank ของแม่มีเจ็ดแสนนิดๆ พร้อมจดหมายรับรองสปอนเซอร์ 4. บุ๊คกิ้งที่จองโรงแรมในลอนดอน(กะเที่ยวลอนดอนก่อนไปอยู่กับญาติในน็อตติ้งแฮม) 5. ตั๋วเครื่องไป กลับ 6.เอกสารส่วนตัวต่างๆพวก ทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน 7. เอกสารเกี่ยวกับแม่เรื่องงานที่ทำ 8. เตรียมรูปถ่ายและก็พร้อมก็กรอกข้อมูลออนไลน์ค่ะ